ก่อนจะอธิบายเรื่องของข้าวกล้อง ขออธิบายในส่วนของกลไกร่างกายซะก่อนเราก็ทราบเหตุผลแล้วว่า การไดเอตนั้น “ต้องลดในส่วนของคาร์โบไฮเดรตลง และเพิ่มส่วนของโปรตีนให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายให้ไขมันเป็นพลังงาน” แต่ก็ต้องมีคนสงสัยว่า ทำไมไม่ทานแบบ คาร์โบไฮเดรตในปริมาณปกติ แต่ ไขมัน 0 ไปเลยล่ะ เพราะไขมันทำให้อ้วนไม่ใช่หรอ? เพราะประเด็นสำคัญก็คือ “ถ้าหาก ร่างกายของเรามีระดับของฮอร์โมนอินซูลินที่สูง ก็จะหยุดใช้พลังงานจากไขมัน แต่ไปใช้พลังงานจากคาร์โปไฮเดรต ซึ่งเป็นพลังงานหลักแทน” การที่ร่างกายจะมีระดับของฮอร์โมนอินซูลินสูงได้นั้น ก็มีเหตุผลเดียวก็คือ การทานคาร์โบไฮเดรตลงที่ย่อยไว ซึ่งแหล่งของคาร์บที่ย่อยไวมากๆที่ใกล้ตัวเราที่สุดกืคือ “ข้าวขาว” หรือ เเป้งที่ผ่านการขัดสี ดังนั้น เพื่อไม่ให้ระดับของอินซูลินเพิ่มสูงเกินไป จึงแนะนำให้ทาน “ข้าวกล้อง” แทนข้าวขาว เนื่องจากลักษณะภายนอกของข้าวกล้อง ที่มีส่วนของเปลือกเยื่อบางๆสีน้ำตาลห่อหุ้มอยู่ ซึ่งเยื่อส่วนนี้จะยึดติดกับส่วนของเนื้อข้าว มีความเหนียว แตกตัวค่อนข้างยาก จึงใช้เวลาในการหุงนานกว่าข้าวปรกติ เยื่อส่วนนี้ ทำให้ข้าวกล้องมีความแตกต่างจากข้าวขาว เพราะเจ้าเยื่อตัวนี้ไม่สามารถย่อยได้ในร่างกายของคน ดังนั้น ถ้าหากเยื่อนี้ยังห่อหุ้มข้าวอยู่ ร่างกายของเราก็ไม่สามารถย่อยข้าว เพื่อเอาคาร์โปไฮเดรตไปใช้เป็นพลังงานได้ซึ่งข้าวกล้องนี้จะแตกตัวโดยการ เคี้ยว และ “มีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยน้อยกว่าข้าวขาว ส่งผลให้การย่อยข้าวกล้อง เป็นแบบช้าๆ” โดยค่อยๆปลดปล่อยน้ำตาลกลูโคสออกมาจึงทำให้อินซูลินหลั่งออกมาน้อยทำให้ร่าง กายยังใช้ไขมันเป็นพลังงานได้ตามปกติ ต่างจากข้าวขาว ซึ่งโดยปกติก็มีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยเยอะอยู่แล้ว ถ้าหากเราเคี้ยวให้ละเอียดมากขึ้น ข้าวก็จะแตกตัว และมีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยมากตามไปด้วย ทำให้การย่อยก็เกิดได้ไว ได้น้ำตาลกลูโคสในปริมาณสูงและอินซูลินหลั่งออกมาเพื่อพากลูโคสเข้าสู่เซลล์ ส่งผลให้ร่างกายหยุดใช้พลังงานจากไขมัน มาใช้พลังงงานจากคาร์บแทน และนี่คือเหตุผล ที่ “ทำไมเราจึงควรทานข้าวกล้องในช่วงไดเอต” นั้นเอง Credit: กระทิง เมืองช้า
วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556
ลองศึกษาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบริโภคคาร์โบค่ะ^^
ก่อนจะอธิบายเรื่องของข้าวกล้อง ขออธิบายในส่วนของกลไกร่างกายซะก่อนเราก็ทราบเหตุผลแล้วว่า การไดเอตนั้น “ต้องลดในส่วนของคาร์โบไฮเดรตลง และเพิ่มส่วนของโปรตีนให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายให้ไขมันเป็นพลังงาน” แต่ก็ต้องมีคนสงสัยว่า ทำไมไม่ทานแบบ คาร์โบไฮเดรตในปริมาณปกติ แต่ ไขมัน 0 ไปเลยล่ะ เพราะไขมันทำให้อ้วนไม่ใช่หรอ? เพราะประเด็นสำคัญก็คือ “ถ้าหาก ร่างกายของเรามีระดับของฮอร์โมนอินซูลินที่สูง ก็จะหยุดใช้พลังงานจากไขมัน แต่ไปใช้พลังงานจากคาร์โปไฮเดรต ซึ่งเป็นพลังงานหลักแทน” การที่ร่างกายจะมีระดับของฮอร์โมนอินซูลินสูงได้นั้น ก็มีเหตุผลเดียวก็คือ การทานคาร์โบไฮเดรตลงที่ย่อยไว ซึ่งแหล่งของคาร์บที่ย่อยไวมากๆที่ใกล้ตัวเราที่สุดกืคือ “ข้าวขาว” หรือ เเป้งที่ผ่านการขัดสี ดังนั้น เพื่อไม่ให้ระดับของอินซูลินเพิ่มสูงเกินไป จึงแนะนำให้ทาน “ข้าวกล้อง” แทนข้าวขาว เนื่องจากลักษณะภายนอกของข้าวกล้อง ที่มีส่วนของเปลือกเยื่อบางๆสีน้ำตาลห่อหุ้มอยู่ ซึ่งเยื่อส่วนนี้จะยึดติดกับส่วนของเนื้อข้าว มีความเหนียว แตกตัวค่อนข้างยาก จึงใช้เวลาในการหุงนานกว่าข้าวปรกติ เยื่อส่วนนี้ ทำให้ข้าวกล้องมีความแตกต่างจากข้าวขาว เพราะเจ้าเยื่อตัวนี้ไม่สามารถย่อยได้ในร่างกายของคน ดังนั้น ถ้าหากเยื่อนี้ยังห่อหุ้มข้าวอยู่ ร่างกายของเราก็ไม่สามารถย่อยข้าว เพื่อเอาคาร์โปไฮเดรตไปใช้เป็นพลังงานได้ซึ่งข้าวกล้องนี้จะแตกตัวโดยการ เคี้ยว และ “มีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยน้อยกว่าข้าวขาว ส่งผลให้การย่อยข้าวกล้อง เป็นแบบช้าๆ” โดยค่อยๆปลดปล่อยน้ำตาลกลูโคสออกมาจึงทำให้อินซูลินหลั่งออกมาน้อยทำให้ร่าง กายยังใช้ไขมันเป็นพลังงานได้ตามปกติ ต่างจากข้าวขาว ซึ่งโดยปกติก็มีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยเยอะอยู่แล้ว ถ้าหากเราเคี้ยวให้ละเอียดมากขึ้น ข้าวก็จะแตกตัว และมีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยมากตามไปด้วย ทำให้การย่อยก็เกิดได้ไว ได้น้ำตาลกลูโคสในปริมาณสูงและอินซูลินหลั่งออกมาเพื่อพากลูโคสเข้าสู่เซลล์ ส่งผลให้ร่างกายหยุดใช้พลังงานจากไขมัน มาใช้พลังงงานจากคาร์บแทน และนี่คือเหตุผล ที่ “ทำไมเราจึงควรทานข้าวกล้องในช่วงไดเอต” นั้นเอง Credit: กระทิง เมืองช้า
วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556
รอบเดือนกับการลดน้ำหนัก
ในช่วงที่เรามีประจำเดือนเราจะมีอาการหลากหลาย บางคนอาจจะอยากอาหารเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ร่างกายจะอมน้ำได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้ตัวเราบวมๆ ในช่วงวันนั้นของเดือน บางคนอารมณ์แปรปรวน ฯลฯ ล้วนแต่เป็นผลมาจากฮอร์โมนในร่างกายเราที่เปลี่ยนแปลง
อาการตัวบวม เกิดจากการที่ฮอร์โมนบางตัวส่งผลให้ร่างกายสะสมน้ำไว้ในชั้นเนื้อเยื่อร่าง กายมากขึ้น ผลก็คือจะทำให้น้าหนักตัวเพิ่ม อึดอัด ตัวบวม เต้านมคัดตึง โดยรวมคืออาการหงุดหงิดและไม่สบายกับร่างกาย เราเรียกอาการแบบนี้ทางการแพทย์ว่า ”กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน” ( PMS: Premenstrual Syndrome ) หนึ่งในกลุ่มอาการนี้ได้แก่ ตัวบวม หน้าท้องขยาย ร่างกายจะสะสมน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ผู้หญิงบางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มได้ถึง 1-2 กิโลกรัมในช่วงก่อนมีประจำเดือน หลังจากนั้นน้ำหนักจะลดลงได้เอง
อาการไม่สบายขณะมีรอบเดือนพบได้หลากหลายกว่า 150 ชนิด แต่เราสามารถแบ่งเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่
อาการหิวบ่อย สาเหตุของอาการหิวบ่อยเกิดจากการที่สาร ”เซโรโทนิน”ในร่างกาย ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนมีรอบเดือนค่ะ ทำให้ร่างกายของเราต้องการคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายใช้ของหวานไปเพิ่มสารตัวนี้ นับว่าเป็นกลไกทางธรรมชาติ เพราะอะไรผู้หญิงจึงได้มีอาการก่อนมีประจำเดือน แพทย์หลายคนจะตอบว่าเป็นเพราะสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ โดยเชื่อกันว่ามีฮอร์โมนอยู่สองชนิดที่น่าจะเกี่ยวข้องกับอาการนี้ นั่นคือ ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน (Progesterone) และ โพรแลกติน (prolactin) ก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีระดับสูงขึ้น มีผลทำให้เราหงุดหงิด ขี้โมโห และมีอาการอื่นๆอีกเป็นร้อยอาการทีเดียว
ดังนั้น หากคุณโหยหาอาหารช่วงก่อนมีประจำเดือนก็ทานเถอะ อย่าหักห้ามใจตัวเองให้มากนัก การที่หักห้ามใจไม่ทานอะไรเลยในช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือนมักจะส่งผลเสียกับ การลดน้ำหนัก เพราะโดยปกติแล้วส่วนใหญ่มักจะหักห้ามใจตนเองกันไม่ได้ และก็มักจะจบด้วยอาหารขยะทั้งหลาย สาเหตุหลักก็เพราะว่าเมื่อความอดทนถึงขีดสุด ความอยากอาหารก็จะปะทุออกมาอย่างรุนแรง เมื่อความอยากอาหารที่ประทุออกมามีมาก อาหารที่สามารถตอบสนองความอยากดังกล่าวได้ดีที่สุดก็มักเป็นอาหารขยะทั้ง หลาย สุดท้ายก็มักจะจบลงด้วยการกินเกินกว่า 500 Kcal ดังนั้น คุณผู้หญิงควรจะเลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์เมื่อความหิวเริ่มประทุขึ้น อย่ารอให้ความหิวโหยดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ไม่อย่างงั้นคุณอาจจะควบคุมมันไม่ได้ โดยการนี้อาจจะค่อย ๆ เพิ่มการรับประทานขึ้นมาแล้วดูว่าปริมาณอาหารแค่ไห สามารถบรรเทาอาการความหิวโหยของคุณได้ โดยไม่ควรเพิ่มขึ้นเกินกว่า 500 Kcal /วัน ช่วงก่อนมีประจำเดือน
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณจะพยายามสุดความสามารถแล้วแต่ก็ไม่สามารถลดความ หิวโหยดังกล่าวได้ ก็ไม่ควรคิดมากจนเกินไป อย่าลืมว่าการเผาผลาญของคุณก็จะสูงขึ้นมากกว่าปกติอยู่แล้วในช่วงดังกล่าว นอกจากนี้แล้วหากมองโลกในแง่ดีการที่คุณทานมากขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ขณะที่คุณลดความอ้วนอยู่ ยังเป็นการกระตุ้นฮอร์โมน Leptin ให้ทำงานได้ดีขึ้นและสุดท้ายก็จะส่งผลให้ระบบการเผาผลาญของคุณดีในระยะยาว อีกด้วย
อาการตัวบวม เกิดจากการที่ฮอร์โมนบางตัวส่งผลให้ร่างกายสะสมน้ำไว้ในชั้นเนื้อเยื่อร่าง กายมากขึ้น ผลก็คือจะทำให้น้าหนักตัวเพิ่ม อึดอัด ตัวบวม เต้านมคัดตึง โดยรวมคืออาการหงุดหงิดและไม่สบายกับร่างกาย เราเรียกอาการแบบนี้ทางการแพทย์ว่า ”กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน” ( PMS: Premenstrual Syndrome ) หนึ่งในกลุ่มอาการนี้ได้แก่ ตัวบวม หน้าท้องขยาย ร่างกายจะสะสมน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ผู้หญิงบางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มได้ถึง 1-2 กิโลกรัมในช่วงก่อนมีประจำเดือน หลังจากนั้นน้ำหนักจะลดลงได้เอง
อาการไม่สบายขณะมีรอบเดือนพบได้หลากหลายกว่า 150 ชนิด แต่เราสามารถแบ่งเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่
- เจ้าน้ำตา
- ท้องอืด (นี่เราก็เป็น)
- ขี้โมโห
- ไม่มีแรง
- หิวบ่อย (อันนีก็เป็น เป็นทุกเดือน)
- น้ำหนักขึ้น
อาการหิวบ่อย สาเหตุของอาการหิวบ่อยเกิดจากการที่สาร ”เซโรโทนิน”ในร่างกาย ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนมีรอบเดือนค่ะ ทำให้ร่างกายของเราต้องการคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายใช้ของหวานไปเพิ่มสารตัวนี้ นับว่าเป็นกลไกทางธรรมชาติ เพราะอะไรผู้หญิงจึงได้มีอาการก่อนมีประจำเดือน แพทย์หลายคนจะตอบว่าเป็นเพราะสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ โดยเชื่อกันว่ามีฮอร์โมนอยู่สองชนิดที่น่าจะเกี่ยวข้องกับอาการนี้ นั่นคือ ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน (Progesterone) และ โพรแลกติน (prolactin) ก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีระดับสูงขึ้น มีผลทำให้เราหงุดหงิด ขี้โมโห และมีอาการอื่นๆอีกเป็นร้อยอาการทีเดียว
ลดอย่างไรในขณะมีประจำเดือน
อย่างรู้ๆกันเมื่อเรากำลังอยู่ในโปรเเกรมลดน้ำหนัก สิ่งที่คนลดความอ้วนพยายามทำกันก็คือ พยายามที่จะจำกัดอาหารให้เท่ากับที่ตนเองเคยรับประทานมาก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายก็ทนกันไม่ได้ เกิดอาการตะบะแตก และรับประทานไม่หยุดโดยเฉพาะอาหารขยะที่มีแคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตสูง ทั้งนี้เพราะอาหารดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการของร่างกายได้อย่างรวด เร็ว สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนมองข้ามไปก็คือ ช่วงก่อนมีประจำเดือนนั้น การเผาผลาญพลังงานของร่างกายก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยมีการทำการทดลองเรื่องการเผาผลาญพลังงานช่วงก่อนมีประจำเดือน และพบว่าการเผาผลาญพลังงานในช่วงก่อนมีประจำเดือนนั้นเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 100-500 kcal/วัน (แล้วแต่บุคคล) ในประเด็นดังกล่าวนี้ แนะนำว่า ให้คุณผู้หญิงที่ลดความอ้วนทุกคนที่มีอาการหิวโหยในช่วงเวลาก่อนที่มีประจำ เดือนรับประทานอาหารได้เพิ่มมากขึ้น 200-500 kcal /วัน (ห้ามเกินกว่านี้เด็ดขาด) ซึ่งนั้นก็พอ ๆ กับอาหารอีก 1 มื้อ เช่นกันดังนั้น หากคุณโหยหาอาหารช่วงก่อนมีประจำเดือนก็ทานเถอะ อย่าหักห้ามใจตัวเองให้มากนัก การที่หักห้ามใจไม่ทานอะไรเลยในช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือนมักจะส่งผลเสียกับ การลดน้ำหนัก เพราะโดยปกติแล้วส่วนใหญ่มักจะหักห้ามใจตนเองกันไม่ได้ และก็มักจะจบด้วยอาหารขยะทั้งหลาย สาเหตุหลักก็เพราะว่าเมื่อความอดทนถึงขีดสุด ความอยากอาหารก็จะปะทุออกมาอย่างรุนแรง เมื่อความอยากอาหารที่ประทุออกมามีมาก อาหารที่สามารถตอบสนองความอยากดังกล่าวได้ดีที่สุดก็มักเป็นอาหารขยะทั้ง หลาย สุดท้ายก็มักจะจบลงด้วยการกินเกินกว่า 500 Kcal ดังนั้น คุณผู้หญิงควรจะเลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์เมื่อความหิวเริ่มประทุขึ้น อย่ารอให้ความหิวโหยดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ไม่อย่างงั้นคุณอาจจะควบคุมมันไม่ได้ โดยการนี้อาจจะค่อย ๆ เพิ่มการรับประทานขึ้นมาแล้วดูว่าปริมาณอาหารแค่ไห สามารถบรรเทาอาการความหิวโหยของคุณได้ โดยไม่ควรเพิ่มขึ้นเกินกว่า 500 Kcal /วัน ช่วงก่อนมีประจำเดือน
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณจะพยายามสุดความสามารถแล้วแต่ก็ไม่สามารถลดความ หิวโหยดังกล่าวได้ ก็ไม่ควรคิดมากจนเกินไป อย่าลืมว่าการเผาผลาญของคุณก็จะสูงขึ้นมากกว่าปกติอยู่แล้วในช่วงดังกล่าว นอกจากนี้แล้วหากมองโลกในแง่ดีการที่คุณทานมากขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ขณะที่คุณลดความอ้วนอยู่ ยังเป็นการกระตุ้นฮอร์โมน Leptin ให้ทำงานได้ดีขึ้นและสุดท้ายก็จะส่งผลให้ระบบการเผาผลาญของคุณดีในระยะยาว อีกด้วย
วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556
Basal Metabolism Rate (BMR)
Basal Metabolism Rate (BMR) คือ สูตรคำนวณพลังงานที่ใช้ต่อวันในภาวะร่างกายปกติเฉพาะคน ซึ่งออกแบบมาให้มีความแม่นยำ ช่วยกำหนดและจำกัดจำนวนพลังงานที่ร่างกายต้องการ โดยคิดจากน้ำหนัก ส่วนสูง อายุ เพศ และโครงสร้างของร่างกาย
BMR สำหรับผู้ชาย = 66+(13.7xน้ำหนักตัวเป็นกก.)+(5xส่วนสูงเป็นซม.)-(6.8xอายุ)
BMR สำหรับผู้หญิง = 665+(9.6xน้ำหนักตัวเป็นกก.)+(1.8xส่วนสูงเป็นซม.)-(4.7xอายุ)
ตัวอย่างเช่น ผู้หญิง อายุ 35 ปี ส่วนสูง 165 ซม. น้ำหนัก 60 กก. BMR จะเท่ากับ 665 +(9.6 x 60)+(1.8 x 165)-(4.7 x 35) = 1373.5 แคลอรี
หากมีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน หรือออกกำลังกายเพิ่มเติม ร่างกายก็จะมีการเผาผลาญพลังงานเพื่อนำมาใช้มากขึ้น สามารถคำนวณพลังงานดังนี้
นั่งทำงานอยู่กับที่ และไม่ได้ออกกำลังกายเลย = BMR ที่คำนวณได้ x 1.2
ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเล็กน้อย ประมาณอาทิตย์ละ 1-3 วัน = BMR ที่คำนวณได้ x 1.375
ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาปานกลาง ประมาณอาทิตย์ละ 3-5 วัน = BMR ที่คำนวณได้ x 1.55
ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนัก ประมาณอาทิตย์ละ 6-7 วัน = BMR ที่คำนวณได้ x 1.725
ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนักทุกวันเช้าเย็น = BMR ที่คำนวณได้ x 1.725
ตัวอย่างเช่น BMR ของคุณ = 1502.9 คุณเป็นคนออกกำลังกายเล็กน้อย ก็เอา BMR x1.375 นั่นคือปริมาณแคลอรีที่คุณต้องการต่อหนึ่งวัน คือ 1502.9 x 1.375 = 2066.49แคลอรี ดังนั้น เพื่อที่จะลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก เราก็ไม่ควรกินอาหารมากเกินกว่าปริมาณแคลอรีที่ร่างกายต้องการต่อวัน
ตัวอย่างเช่น ผู้หญิง อายุ 35 ปี ส่วนสูง 165 ซม. น้ำหนัก 60 กก. BMR จะเท่ากับ 665 +(9.6 x 60)+(1.8 x 165)-(4.7 x 35) = 1373.5 แคลอรี
หากมีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน หรือออกกำลังกายเพิ่มเติม ร่างกายก็จะมีการเผาผลาญพลังงานเพื่อนำมาใช้มากขึ้น สามารถคำนวณพลังงานดังนี้
ตัวอย่างเช่น BMR ของคุณ = 1502.9 คุณเป็นคนออกกำลังกายเล็กน้อย ก็เอา BMR x1.375 นั่นคือปริมาณแคลอรีที่คุณต้องการต่อหนึ่งวัน คือ 1502.9 x 1.375 = 2066.49แคลอรี ดังนั้น เพื่อที่จะลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก เราก็ไม่ควรกินอาหารมากเกินกว่าปริมาณแคลอรีที่ร่างกายต้องการต่อวัน
ค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index)
สูตร BMI การคำนวนหาค่า BMI (Body Mass Index) ทำอย่างไร?
การที่จะบอกได้ว่าคนๆนั้นอวบหรืออ้วน หรือน้ำหนักเกินนั้น หากใช้สายตาประเมินก็เป็นเรื่องของแต่ละคนว่าจะมองแบบไหนว่าอ้วน หรือแค่อวบกันแน่เกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานที่จะมาจับได้ก็คือค่า BMI หรือ Body Mass Index นั่นเองครับ
สูตรการคำนวนหาค่า BMI ก็คือ = น้ำหนัก(กิโลกรัม) หาร ส่วนสูง(เมตร)ยกกำลังสอง
ยกตัวอย่างการคำนวณ
สมมุติว่าคุณหนัก 60 kg และสูง 165 cm
ก่อนอื่นก็แปลงส่วนสูงเป็นเมตรก่อนครับ
โดย 165 เซนติเมตร พอกลายเป็นเมตรก็เท่ากับ 1.65 เมตรครับ
ก็เอาค่ามาเทียบในสูงได้เลย
= 60 / (1.65 x 1.65)
= 22.03
ค่า BMI ก็จะเท่ากับ 22.03 นั่นเองครับ
เมื่อได้ค่ามา ก็เอามาเทียบตามค่าดังนี้ครับ
- ต่ำกว่า 17 = ผอม กินให้เยอะกว่านี้หน่อยจะดีกว่านะ
- 17-18.4 = สมส่วน ทำตัวให้เหมือนเดิมอ่ะ ดีแล้ว ^ ^
- 18.5-24.9 = เริ่มจะอวบ (ยังไม่อ้วนนะ) ระวังหน่อยๆ ช่วงนี้เริ่มกินเยอะขึ้นแล้วใช่ไหมเรา?
- 25-29.9 = อวบระยะสุดท้ายหรืออ้วนแล้วล่ะ แต่ยังไม่ถึงกะเป็นอันตราย ให้รีบลด
- มากกว่า 30 = อ้วนแบบอันตรายแล้วล่ะ รีบลดด่วนๆ
วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556
ทั้งชีวิตเคยอ้วนมายังไงไม่รู้ แต่ต่อจากนี้เราจะลดน้ำหนักกัน

เริ่มไงดีอ่ะ... เอาความเป็นธรรมชาติแบบของยุ้ยละกันนะคะ จะให้ยุ้ยไปนั่งเขียนเหมือนพวกที่ขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักพวกนั้นยุ้ยคงไม่เอาไม่ชอบ 555
อันดับแรกยุ้ยว่าเราต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าเราอ้วนเพราะอะไร ส่วนตัวยุ้ยเอง เกิดมาก็ไม่ได้อ้วนนะเรียกว่าทั้งครอบครัวไม่มีใครอ้วนเลย มียุ้ยเนี่ยแหละเหตุมันเริ่มจากด้วยความซนตามประสาเด็กก็เล่นน้ำกับพี่ชายจนตัวเปียกปอน พอใกล้เวลาที่แม่เลิกงาน เลยไม่รู้จะทำไง พี่ชายเลยตัดสินใจเอาพัดลมมาเป่าซะเลยหวังให้ตัวแห้ง ทีนี่ละก็ได้เรื่องส่งโรงพยาบาลกันเลยทีเดียวเนื่องจากปอดชื้น หมอสรุปว่าเป็นปอดบวม รักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา 3 เดือน ก็กินน้ำเกลือยาวๆ อย่าเข้าใจผิดนะคะ ว่าน้ำเกลือทำให้อ้วน แต่ร่างกายเราบวมน้ำเลย พอเป็นเด็กไม่แข็งแรงก็จะมีแต่คนมาเยี่ยมพร้อมขนมนมเนยไม่เคยขาด แน่นอนเราก็จัดเต็ม รู้ตัวอีกทีก็ไม่ไหวแร้น แห่ะๆ น้ำหนักเริ่มเกินมาตรฐาน แต่พยายามบอกตัวเองว่ายังไม่อ้วน
จุดเปลี่ยนมันมาอยู่ช่วงชีวิตสมัยมหาวิทยาลัย เริ่มรู้จักกับคำว่ายาลดน้ำหนัก เหตุเนื่องมาจากอยากผอมอยากสวยก็จัดซะเลย จัดกันเปงทีม จัดกันเปงกลุ่ม ตัวยุ้ยเองก็จัดมาหลายสถาบันอยู่เหมือนกันคิคิ กินยาวๆตั้งแต่ประมาณปี 43 เรียนจบปี 46 ก็ยังไม่เลิกกิน กินอยู่5ปีได้ กินจนถึงชุดแรงสุด ไม่กล้าไปซื้อเองต้องให้พี่มัยไปซื้อให้



กินไปกินมาอาการเริ่มออก เริ่มเบลอๆ ยาถ่ายที่เขาจัดมาให้ก็ต้องกินหนักขึ้นเรื่อยๆถ้าไม่กินก็ไม่ถ่าย ทรมานสุดๆ แต่ที่ตัดสินใจเลิกกินเพราะพ่อกับแม่ไม่สบายใจและเป็นห่วงมาก ร่างกายเราก็ไม่ไหวแล้วด้วยเลยหยุด ยุ้ยก็พยายามหาหลายวิธีนะทั้งสถาบันชื่อดังมาจัดโปรโมชั่นที่มหาวิทยาลัยตอนทำงานอยู่ ดูแล้วก็ไม่รอด เลยหันมากินสูตร ที่รู้จักกันสตรลดน้ำหนัก 3 วัน สูตร 5 วัน 7 วัน ก็ยุบลงนะ แต่ก็กลับมากลมอีก พวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร her.... ไรพวกนี่ก็ลอง แต่ก็เอาเราไม่อยู่ น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายทำไงรู้มะคร้า จะบอกว่าทำวิธีนี้แล้วสบายใจที่สุด ตั้งใจอ่านให้ดีนะคะ >>> อยากกินไรกินเข้าไปเลย เสื้อผ้าเหรอก็ซื้อใหม่เอาไง เวลาใครถามก็บอกว่าเสื้อมันหด ที่สำคัญก็บอกตัวเองว่าอ้วนก็น่ารักดี เวลาเจออาหารถูกใจก็บอกตัวเองว่าพรุ่งเน้่ค่อยลดก็ได้ ซื้อเสื้อผ้าตัวใหญ่มาใส่ แล้วบอกตัวเองว่าเสื้อยังหลวม เสื้อผ้าเก่าๆงัดมาใส่ ก็แบบว่ายัดสุดๆ ฟิวส์ข่มขืนเสื้อผ้า 5555 จนสุดท้ายเอาไม่อยู่จริงๆ ปล่อยเลยค้าบปล่อย ปล่ิอยยาวๆ มาดูภาพกัน บางคนบอก ไหนๆ เอ๊า...ดูกันชัดๆ
เหอๆๆๆๆ เห็นภาพแล้วก็ยังทำใจไม่ได้ โศกนาฎกรรมชัดๆ T___T แต่ถามว่าทำไมถึงตั้งใจเอาจริงที่จะลดล่ะ เพราะครั้งนี้แรงบันดาลใจของยุ้ยมันชัดมากไง ยิ่งช่วงเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาตอนงานศพของคุงพ่อยุ้ย ยุ้ยยิ่งคิด มันคือสิ่งที่คุณพ่อเคยขอยุ้ยไว้ ยุ้ยไม่แข็งแรงอยู่แล้ว พ่อกลัวว่าอ้วนมากแล้วโรจะรุมเร้า เชื่อมะคะตอนที่ยุ้ยเริ่มตั้งใจลดน้ำหนักแล้วเริ่มผอมลง คุณแม่เอ่ยปากมาเองเลยว่า "พ่อเห็นหนูในวันนี้พ่อคงดีใจไม่น้อยเลย" นั่นเปงอีกหนึ่งแรงฮึดจริงๆ แต่ที่คู่กันคือพอจังหวะที่ยุ้ยอ้วนมาก ยุ้ยปวดเข่าและปวดหลังมากยาวมาถึงต้นคอจนบางครั้งปวดจนน้ำตาไหล แน่นอนค่ะบางครั้งการลดน้ำหนักมันมีอารายมากกว่า แรงบันดาลใจที่บอกว่าลดแล้วสวย แต่ไม่อยากให้เพื่อนๆทุกคนต้องเป็นอย่างยุ้ยก่อนนะคะ นี่แหละเป็นสิ่งที่ยุ้ยตัดสินใจลดเด็ดขาด ลดม้วนเดียว ลดให้มันจบ อะไรที่ยากกว่านี้เราทำมาก็ตั้งเยอะ เรื่องแค่นี้ "ยากจริงหรือ" เราไม่ยอมแพ้คนอื่น แต่ทำไมถึงยอมแพ้ให้กับเรื่องง่ายๆของตนเองมาๆๆๆๆ ถึงเวลาเข้าเรื่องของเราทุกคนกันทำไงให้ลดน้ำหนักได้
บางคนถาม "เม้าท์มาทั้งหมดจะสื่อไรเนี่ย"
ก็จะสิ่อว่าการจะลดน้ำหนักแรงบันดาลใจเป็นสิ่งสำคัญไง
ก็จะสิ่อว่าการจะลดน้ำหนักแรงบันดาลใจเป็นสิ่งสำคัญไง
หาแรงบันดาลใจของตัวเองให้เจอ หาไม่เจอหรือไม่จริงจัง ขอโหดดดดด จะบอกว่าไม่ต้องอ่านต่อแล้วจร้า ยังไงก็ไม่สำเร็จ ใครอ่านเรื่องราวของยุ้ยแล้วจริงจังทำตาม ลดล้านเปอร์เซนต์
เราจะใช้เวลาทั้งหมด 45 วันในการลดน้ำหนักครั้งที่ 1 ดังนั้นกางปฏิทินตัวเองซะเลยนะคะ ขีดไว้แล้วบอกกับตัวเองว่า 45 วันที่เราเคยปล่อยให้ผ่านไป ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในชีวิต ไม่เห็นจะมีไรทำให้เราเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าครั้งนี้ฝืนใจหน่อย อดทนนิด ใช้เวลา 45 วันเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองเลยดีกว่า..บางคนบอกเว่อร์ แค่ลดน้ำหนักจะเปลี่ยนแปลงถึงชีวิตเลยเหรอ อย่างมากก็แค่เปลี่ยนหุ่น ถ้าคุณไม่เชื่อเรามาเดิมพันกันเลยค่ะ ว่าชีวิตและสุขภาพคุณเปลี่ยนด้วยแน่นอน
การตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง เช่นใน 30 วันแรก อยากลดให้ได้ 6 กิโล แสดงว่าต้องมาเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่อาทิตย์ละ 1.5 กิโลกรัม ซอยย่อยเป้าหมายให้เห็นกันชัดๆเลยเนอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องทราบค่า BMI ของตัวเองก่อน BMI คืออะไร คือค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index) จะบอกได้ว่าคนๆนั้นอวบหรืออ้วน หรือน้ำหนักเกิน ใครไม่ทราบวิธี Clickที่นี่ เลยค่ะ หลังจากนั้นอัตราการเผาผลาญพลังงานของแต่ละคนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน รู้กันก่อนค่ะว่าวันนึงเราเผาผลาญได้เท่าไหร่ Click เลยจ้า
---พร้อมยังคะ ถ้าพร้อมแล้วลุยนะ อย่าแพ้ภัยตนเอง---
ที่สำคัญยุ้ยต้องใช้ตัวช่วยด้วย 3 ตัว ซึ่งจะทำให้ได้ผลไหวมากและไม่ทำให้ร่างกายเกิดเอฟเฟค ตัวแรกใช้โอลิโก ไฟเบอร์ ในการ Detox ลำไส้ก่อน เพื่อการดูดซึมที่ดี อีกอย่างใช้เวลาที่เราหิวได้ด้วย ไม่อ้วนแต่รสชาติอร่อยมากเป็นรสน้ำสัปปะรดเลย แล้วที่สำคัญมากๆคือยุ้ยใช้ตัว AG Bloc ตัวนี้ช่วยบล็อคแป้งกับน้ำตาลซึ่ง 1 เม็ดบล็อคได้ 200-300 kcal เพราะฉะนั้นจึงช่วยได้เป็นอย่างดี เหมือนกับเรามีตาข่ายป้องกันอาหารจะเข้าสู่ร่างกาย สุดท้ายคือตัว 6L ช่วยเบิร์น อันเน้เด็ดดวงเพราะจะช่วยเราเบิร์นไขมันในร่างกายได้เป็นอย่างดี ใครชอบออกกำลังกายกินตัวนี้ยิ่งเพิ่มการเผาผลาญได้อย่างเวิร์ค ที่สำคัญทุกตัวเปงสารสกัดจากธรรมชาติหมดด้วย หยุดก็ไม่โย้เพราะลองแล้ว ตอนเน้ยุ้ยใช้ทั้งหมดเน้อยู่ แต่ถ้ามีตัวไหนเด็ดดวงจะรีบมาเม้าท์ต่อทันที เหงว่ากำลังมี นวัตกรรมแบบใหม่ ใช้ทาเลย 5555 เด๋วไงลองใช้ก่อนแล้วจะอัพเดทให้ฟัง
กฏข้อที่ 2 ควบคุมอาหาร ทานได้ 800 - 1000 แคลอรี่/วัน
บางคนเห็นข้อนี้ก็ท้อซะแล้ว ตีตนไปก่อนไข้ว่าฉันไม่ไหวฉันทำไม่ได้ จะบอกว่าเคยคิดเหมือน 5555 แต่พอลองทำไม่เห็นจะยากเลย เราต้องเข้าใจว่าเหตุที่เราอ้วนเพราะ
"เราเอาเข้าไป มากกว่าเอาออกมา" อดทนนิดนะคะ 45 วันเอง
>>> ห้ามอดอาหาร <<<
ใครโหลด app ได้ไปโหลด Fit D มาใช้เลยค่ะ ส่วนการรับประทานอาหารว่าควรเลือกทานดังนี้นะคะ เน้นว่าสำัคัญมาก
เช้าทานกล้วยหอมดีที่สุด ใน 45 วันนี้ 1 ลูกเฉลี่ยอยู่ที่ 120 กิโลแคลอรี่เท่านั้น มื้อกลางวัน เย็นดูตามรูปเลยค่ะ เน้นนะคะวันนึงห้ามเกิน 800 - 1000 แคลอรี่ บางคนชอบลักไก่ เที่ยงแบบว่าเอาง่ายสะดวกไว เลยจัดข้าวผัดคะน้าหมูกรอบ 1 จาน เพื่อนๆรู้มะคะว่ากี่แคล อยู่ที่ 670 กิโลแคลอรี่เลยค่ะ กินอันเน้จานนึงเท่ากับเราทานลาบหมูได้ 5 จานเลย เพราะลาบหมูโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 130 กิโลแคลอรี่เองค่ะ
"แต่จะบอกว่าตัวช่วยยังไงก็คือตัวช่วย ตัวเราเนี่ยสำคัญฟุดๆ เข้าใจ บ่"
กฏข้อที่ 3 ต้องชั่งน้ำหนักทุกวัน เช้าและเย็น
บอกเลยว่าต้องชั่ง บางคนรับตัวเองไม่ได้ กลัวความจริง ชั่งแล้วทำใจไม่ได้ ขอบอกเลยว่าต้องทำค่ะ ไม่งั้นเราจะไม่รู้ตัวเองเลย และจะแก้ไขมันไม่ทัน ยุ้ยเองแรกๆก็ไม่ชินแต่หลังๆชั่งเกินวันละ 2 ครั้งอีก ตาชั่งต้องเป็นแบบดิจิตอลนะคะเสถียรกว่าบอกเป็นจุดทศนิยมกันเลยทีเดียว เวลาในการชั่งคือ ตื่นนอนปุ๊บยังไม่ต้องทานอารายเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วออกมาชั่ง อีกทีก็เป็นตอนก่อนนอน อาบน้ำอาบท่าเสร็จจะนอนก็ชั่งค่ะ ไม่ต้องตกใจนะคะ น้ำหนักตอนเย็นเยอะกว่าตอนเช้าอยู่แล้ว อ๋อเคล็ดลับ ยุ้ยกิน6L ก่อนนอน 3 เม็ดด้วย ร่างกายเราขณะที่พักผ่อนก็จะเผาผลาญได้ดีกว่าเดิม มีภาพการชั่งมาโชว์
บอกเลยว่าต้องชั่ง บางคนรับตัวเองไม่ได้ กลัวความจริง ชั่งแล้วทำใจไม่ได้ ขอบอกเลยว่าต้องทำค่ะ ไม่งั้นเราจะไม่รู้ตัวเองเลย และจะแก้ไขมันไม่ทัน ยุ้ยเองแรกๆก็ไม่ชินแต่หลังๆชั่งเกินวันละ 2 ครั้งอีก ตาชั่งต้องเป็นแบบดิจิตอลนะคะเสถียรกว่าบอกเป็นจุดทศนิยมกันเลยทีเดียว เวลาในการชั่งคือ ตื่นนอนปุ๊บยังไม่ต้องทานอารายเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วออกมาชั่ง อีกทีก็เป็นตอนก่อนนอน อาบน้ำอาบท่าเสร็จจะนอนก็ชั่งค่ะ ไม่ต้องตกใจนะคะ น้ำหนักตอนเย็นเยอะกว่าตอนเช้าอยู่แล้ว อ๋อเคล็ดลับ ยุ้ยกิน6L ก่อนนอน 3 เม็ดด้วย ร่างกายเราขณะที่พักผ่อนก็จะเผาผลาญได้ดีกว่าเดิม มีภาพการชั่งมาโชว์
กฏข้อที่ 4 ใส่รูปแรงบันดาลใจของตัวเองไว้ที่หน้าจอโทรศัพท์
ยุ้ยเชื่อว่าแรงบันดาลใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราได้เห็นมันทุกๆวัน เราจะมีกำลังใจที่จะทำขึ้นเยอะเลยค่ะ จริงๆนะคะ ^^
ยุ้ยเชื่อว่าแรงบันดาลใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราได้เห็นมันทุกๆวัน เราจะมีกำลังใจที่จะทำขึ้นเยอะเลยค่ะ จริงๆนะคะ ^^
กฏข้อที่ 5 ออกกำลังกาย 3ครั้ง/อาทิตย์
การออกกำลังกาย ช่วยได้ดีมากเลยค่ะ ยุ้ยเองใช้การออกกำลังกายที่บ้านล้วนๆ แรกๆก็เล่น Hula ครั้งนึงก็จะประมาณ 40-60 นาที เวลาเหงื่อออกแล้วมันโล่งดีจังเลยค่ะ เมื่อก่อนขี้เกียจมากกกขอบอก
แต่พอซักพักก็ต้องเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกาย เพราะเหมือนร่างกายมันชินเลยไปหาคลิปมาใช้ จะบอกว่าเด็ดสุดๆ ลองทำตามนะคะเขาสอนด้วย หลังออกกำลังกาย ยุ้ยกินมัลติโปรด้วยค่ะ มันจะช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อด้วยคร้า
แต่พอซักพักก็ต้องเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกาย เพราะเหมือนร่างกายมันชินเลยไปหาคลิปมาใช้ จะบอกว่าเด็ดสุดๆ ลองทำตามนะคะเขาสอนด้วย หลังออกกำลังกาย ยุ้ยกินมัลติโปรด้วยค่ะ มันจะช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อด้วยคร้า
กฏข้อที่ 6 พยายามหาคลิปหรือรูปเกี่ยวกับการลดน้ำหนักให้ตัวเองดูเสมอๆ
ยุ้ยเองก็มีมาฝากเพื่อนๆเหมือนกันนะคะลองเลือกดูกันนะ 555
พอๆๆ เมื่อยแร้น 5555 ยุ้ยสรุปให้ตามนี้นะคะ
1. หาแรงบันดาลใจ และเป้าหมายให้ชัด
2. ต้องมีวินัยจริงๆ รับประทานอาหารห้ามเกิน 800-100 Kcal/วัน และใช้อาหารเสริมอย่างมีวินัยเช่นกัน
ห้ามอดอาหาร โดยเด็ดขาด ไม่งั้นคุณกลับมาอ้วนอีกแน่นอนล้านเปอร์เซนต์
3. ชั่งน้ำหนักทุกวัน เช้าและเย็น
4. ใส่รูปแรงบันดาลใจของตัวเองไว้ที่หน้าจอโทรศัพท์
5. ออกกำลังกาย 3ครั้ง/อาทิตย์
6. หาคลิปหรือรูปเกี่ยวกับการลดน้ำหนักให้ตัวเองดูเสมอๆ
ยุ้ยเองก็มีมาฝากเพื่อนๆเหมือนกันนะคะลองเลือกดูกันนะ 555
คลิปนี่โคตรดี ต้องดูเลย
*** สิ่งที่ต้องรู้สำหรับสาวๆ ไม่ต้องกังวลนะคะ ถ้ารู้สึกว่าช่วงที่มีประจำเดือนแล้วน้ำหนักขึ้น เพราะจะมีอาการตัวบวม เกิดจากการที่ฮอร์โมนบางตัวส่งผลให้ร่างกายสะสมน้ำไว้ในชั้นเนื้อเยื่อร่าง กายมากขึ้น ผลก็คือจะทำให้น้าหนักตัวเพิ่ม อึดอัด ตัวบวม เต้านมคัดตึง โดยรวมคืออาการหงุดหงิดและไม่สบายกับร่างกาย อ่านต่อที่นี่ค่ะ
พอๆๆ เมื่อยแร้น 5555 ยุ้ยสรุปให้ตามนี้นะคะ
1. หาแรงบันดาลใจ และเป้าหมายให้ชัด
2. ต้องมีวินัยจริงๆ รับประทานอาหารห้ามเกิน 800-100 Kcal/วัน และใช้อาหารเสริมอย่างมีวินัยเช่นกัน
ห้ามอดอาหาร โดยเด็ดขาด ไม่งั้นคุณกลับมาอ้วนอีกแน่นอนล้านเปอร์เซนต์
3. ชั่งน้ำหนักทุกวัน เช้าและเย็น
4. ใส่รูปแรงบันดาลใจของตัวเองไว้ที่หน้าจอโทรศัพท์
5. ออกกำลังกาย 3ครั้ง/อาทิตย์
6. หาคลิปหรือรูปเกี่ยวกับการลดน้ำหนักให้ตัวเองดูเสมอๆ
ตัวอย่างรูปการลดน้ำหนักของยุ้ย
82 กิโล 67.3 กิโลมือเช้าโฮลวีต น้ำพริกปลาแมคคาเรล ไม่เกิน 150 kcal
มื้อเที่ยง จับฉ่าย ข้าวเปล่า 3 ช้อน (ไม่ใช่ 3ทัพพีเน้อ) 230 kcal
มื้อเย็น ปลาลวกจิ้ม ไม่เกิน 200 kcal
ออกกำลังกายวันละ40-50 นาที มัลติโปรหลังออกเสร็จอีก 60 kcal
ก่อนทานอาหารมื้อเที่ยงกับเย็น AG Bloc กับ 6L อย่างละ 3 เม็ด ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง
มื้อเย็นเพิ่ม Oligo ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
ใครอ่านแล้วจะลงจริงๆเด๋วยุ้ยเปงโค้ชให้ตลอด 45 วันนะคะ อยากช่วยให้ลดได้จริงๆ ยุ้ยเข้าใจว่าพออ้วนแล้วเป็นไง เหอๆๆๆ T___T
วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556
สร้างพระ ถวายวัดค่ะ

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Package Internet DTAC มาฝากค่ะ พอนี้วันนี้ต้องใช้เลยเอามาฝาก
วันเน้ไปหาโปรอินเตอร์เน็ทของดีแทคมาค่ะเลย copy มาฝากเพื่อนๆด้วย เผื่อใครหาอยู่
########################################
สมัครเน็ตดีแทค โปรอินเตอร์เน็ตดีแทค Package Internet DTAC
แพ็คเกจอินเตอร์เน็ตดีแทค [ Package Internet Dtac ] อัพเดทล่าสุด 15/8/2556
โปรเล่นเน็ต dtac : ใช้ได้ 1เดือน (ต่ออายุอัตโนมัติ)
สมัครเน็ตดีแทค [ Dtac Internet ] แบบคิดตามนาที
Dtac Internet 99 บาท เล่นได้ 20 ชั่วโมง วิธีกดสมัคร *104*12*1472141# โทรออก
(ใช้ภายใน 1 เดือน หากใช้หมดก่อน สมัครซ้ำไม่ได้ )
-------------------------------------------------------------------------------------
Dtac Internet 199 บาท เล่นได้ 70 ชั่วโมง วิธีกดสมัคร *104*13*1472141# โทรออก
(ใช้ภายใน 1 เดือน หากใช้หมดก่อน สมัครซ้ำไม่ได้ )
-------------------------------------------------------------------------------------
สมัครเล่นเน็ตไม่อั้น ดีแทค [ Dtac internet unlimited ] + DEEZER ใหม่
Dtac Internet 399 บาท เล่น ไม่อั้น 1 เดือน วิธีกดสมัคร *104*21*1472141# โทรออก
(เล่นเน็ตดีแทคไม่อั้น 1 เดือน ความเร็วไม่เกิน64Kbps + รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็ว 42 Mbps 1 GB)
-------------------------------------------------------------------------------------
Dtac Internet 449 บาท เล่นไม่อั้น 1 เดือน วิธีกดสมัคร *104*553*1472141# โทรออก
(เล่นเน็ตดีแทคไม่อั้น 1 เดือน ความเร็วไม่เกิน384Kbps + รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็ว42 Mbps 1.2 GB)
(ฟังเพลงฟรีผ่านมือถือสมาร์ทโฟนได้กว่า 18ล้านเพลงทั่วโลกผ่าน app DTAC DEEZER) *ใหม่*
-------------------------------------------------------------------------------------
Dtac Internet 650 บาท เล่นไม่อั้น 1 เดือน วิธีกดสมัคร *104*23*1472141# โทรออก
(เล่นเน็ตดีแทคไม่อั้น 1 เดือน ความเร็วไม่เกิน384Kbps + รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็ว42 Mbps 3 GB)
-------------------------------------------------------------------------------------
Dtac Internet 890 บาท เล่นไม่อั้น 1 เดือน วิธีกดสมัคร *104*22*1472141# โทรออก
(เล่นเน็ตดีแทคไม่อั้น 1 เดือน ความเร็วไม่เกิน384Kbps + รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็ว42 Mbps 5 GB)
-------------------------------------------------------------------------------------
สมัครเน็ตดีแทค แบบคิดตามปริมาณการใช้งาน
Dtac Internet 99 บาท เล่นได้ 75 MB วิธีกดสมัคร *104*25*1472141# โทรออก
(ใช้ภายใน 1 เดือน ใช้หมดก่อนสมัครซ้ำไม่ได้ , รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps)
-------------------------------------------------------------------------------------
Dtac Internet 199 บาท เล่นได้ 250 MB กดสมัคร *104*26*1472141# โทรออก
(ใช้ภายใน 1 เดือน ใช้หมดก่อนสมัครซ้ำไม่ได้ , รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps)
-------------------------------------------------------------------------------------
สมัครเน็ตดีแทค Smartphone Package โปรโมชั่นหลัก
โปรอินเตอร์เน็ตดีแทค สมาร์ทโฟน สำหรับลูกค้าเติมเงิน มี "ทั้งโทรและเน็ต" ในแพ็คเกจเดียว
โปรเน็ตดีแทค สมาร์ทโฟน 5 แพ็คเกจนี้ เป็นโปรหลักไม่ใช่โปรเสริมนะคะ
*ออกใหม่ 8/56*สำหรับลูกค้าดีแทค เติมเงิน [ Happy Dtac ]
เมื่อสมัครแล้วถือเป็นการเปลี่ยนโปรโมชั่นปัจจุบันของลูกค้ามาใช้โปรเน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน
อัตราค่าบริการต่างๆที่ใช้อยู่เดิมจะถูกยกเลิกเป็นโปรใหม่นี้แทน โดยไม่เสียค่าเปลี่ยนโปรค่ะ
เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 89 บาท เน็ต 40 MB 7วัน วิธีสมัคร *103*111*1472141# โทรออก
เล่น Facebook + Line + WhatsApp ได้ไม่จำกัด 7 วัน
(เป็นโปรรายสัปดาห์ ใช้ภายใน 7 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ )
-------------------------------------------------------------------------------------
เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 299 บาท เน็ตไม่อั้น 30 วัน วิธีสมัคร *103*112*1472141# โทรออก
เล่นเน็ตความเร็ว 3G ได้ 500 MB + โทรฟรีทุกเครือข่าย 100 นาที
(ใช้ภายใน 30 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ เล่นเน็ตความเร็วเน็ต 3G สูงสุด 42Mbps
เมื่อใช้เน็ต 3G ครบ 500 MB แล้วเล่นเน็ตไม่อั้น 30 วัน ในความเร็วไม่เกิน 64Kbps )
** สิทธิ์การใช้เน็ตไม่อั้นของแพ็คเกจนี้ได้เพียง 6 เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นเล่นได้ 500MB/เดือน **
-------------------------------------------------------------------------------------
เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 399 บาท เน็ตไม่อั้น 30 วัน วิธีสมัคร *103*113*1472141# โทรออก
เล่นเน็ตความเร็ว 3G ได้ 750 MB + โทรฟรีทุกเครือข่าย 150 นาที
(ใช้ภายใน 30 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ เล่นเน็ตความเร็วเน็ต 3G สูงสุด 42Mbps
เมื่อใช้เน็ต 3G ครบ 750 MB แล้วเล่นเน็ตไม่อั้น 30 วัน ในความเร็วไม่เกิน 64Kbps )
-------------------------------------------------------------------------------------
เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 499 บาท เน็ตไม่อั้น 30 วัน วิธีสมัคร *103*114*1472141# โทรออก
เล่นเน็ตความเร็ว 3G ได้ 1 GB + โทรฟรีทุกเครือข่าย 250 นาที
(ใช้ภายใน 30 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ เล่นเน็ตความเร็วเน็ต 3G สูงสุด 42Mbps
เมื่อใช้เน็ต 3G ครบ 1 GB แล้วเล่นเน็ตไม่อั้น 30 วัน ในความเร็วไม่เกิน 64Kbps )
-------------------------------------------------------------------------------------
เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 699 บาท เน็ตไม่อั้น 30 วัน วิธีสมัคร *103*115*1472141# โทรออก
เล่นเน็ตความเร็ว 3G ได้ 2 GB + โทรฟรีทุกเครือข่าย 400 นาที
(ใช้ภายใน 30 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ เล่นเน็ตความเร็วเน็ต 3G สูงสุด 42Mbps
เมื่อใช้เน็ต 3G ครบ 2 GB แล้วเล่นเน็ตไม่อั้น 30 วัน ในความเร็วไม่เกิน 64Kbps )
-------------------------------------------------------------------------------------
โปรเน็ตดีแทค สมาร์ทโฟน สมัครแล้วเป็นโปรโมชั่นหลัก ไม่ใช่โปรเสริมนะคะ
อัตราค่าโทรส่วนเกินจากแพ็คเกจ นาทีละ 99 สต. ทุกเครือข่าย
เล่นอินเตอร์เน็ตส่วนเกินจากแพ็คเกจ เมกกะไบต์ละ 2 บาท
ส่ง sms ข้อความละ 1 บาท ส่ง mms ข้อความละ 5 บาท
ค่าบริการข้างต้นยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7%
สมัครแล้วรอรับ sms จากระบบนะคะ ซึ่งอาจมีบางวันที่รอรับ sms นานมาก...
ถ้าไม่ได้รับ sms ตอบกลับ ให้เช็คยอดเงิน กด *101# โทรออกค่ะ หรือ
กดเช็คสิทธิการใช้งาน โปรอินเตอร์เน็ตดีแทค กด *101*4# โทรออกค่ะ
ระบบการสมัครโปรของดีแทคอาจขัดข้องบางช่วงเวลานะคะ หากสมัครไม่ได้ ให้จดวิธีการสมัครไว้ก่อน แล้วรอสัก 5-10 นาทีแล้วกดสมัครใหม่นะคะ
โปรเน็ต ดีแทค เติมเงิน [Happy Dtac] คลิ๊กที่รูปด้านล่างค่ะ
^^ พิเศษสำหรับ Happy มีเน็ต 3 ชม 15บาท, 5 ชั่วโมง 50 บาท และ แบ
วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556
อ่านแล้วน่าคิด
วันนี้ไปเจอข้อคิดดีๆมาเลยอยากเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะคะ
รูปแบบการบริหารและการใช้เง ิน
เป็นหมอดูทำนายอนาคตได้แม่น ยำ
อยากรู้ว่าอนาคตเราจะเป็นเช ่นไร?
สำรวจดูเราใช้เงินแบบ"ว่าที ่ยาจกหรือว่าที่เศรษฐี"
รูปแบบการบริหารและการใช้เง
เป็นหมอดูทำนายอนาคตได้แม่น
อยากรู้ว่าอนาคตเราจะเป็นเช
สำรวจดูเราใช้เงินแบบ"ว่าที
วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556
เก็บตกวันแม่นะคะ
เหลือกันแค่สองคนแม่ลูก แต่เราจะไม่ทำให้พ่อต้องห่ว ง เราสองคนแม่ลูกจะรักและดูแล กันตลอดไป ลูกจะดูแลแม่ให้ดีที่สุดค่ะ ไม่ใช่แค่ห่วงใย แต่จะใส่ใจทุกๆวินาที รักแม่ในทุกลมหายใจ วันทุกวันคือวันแม่สำหรับยุ ้ย
Welcome Welcome !!!!
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกคนนะคะ ชื่อยุ้ยค่ะ โดยส่วนตัวนั่งทำงานอยู่หน้าคอมเป็นประจำอยู่แล้ว หมู่นี้ใช้บล็อคเกอร์ทำงานบ่อย เลยอยากจะสร้างบล็อคส่วนตัวของตัวเองดูบ้าง คล้ายๆกับการเขียนไดอารี่ฟิวประมาณนั้นเลยมั่งคะ 5555 เรื่อยเปื่อยบ้าง มีสาระบ้าง ลองอ่านติดตามกันดูนะคะ
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)